โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือป้ายแดง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี คาดหมายว่าจะได้ลงคุมทัพข้างสนามทันทีโดย คริสเตียน พูลิซิช, ฮาคิม ซิเย็ช และ แทมมี่ อับราแฮม พร้อมยืนสามประสานแดนหน้าล่าสกอร์เกมรับ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
“สิงโตน้ำเงินครา” เชลซี แต่งตั้ง โธมัส ทูเคิ่ล อดีตนายใหญ่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เป็นกุนซือคนใหม่เรียบร้อย โดยเข้ามาแทน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่โดนเด้งไปหลังพาทีมชนะลูตัน ทาวน์ 3-1 ในเกมเอฟเอ คัพ เป็นการคว้าชัยนัดที่ 3 ในรอบ 5 เกม แต่ผลงานโดยรวมในลีกถือว่าน่าผิดหวัง
และคาดว่า ทูเคิ่ล จะประเดิมหน้าที่นายใหม่นัดนี้ทันที จากก่อนหน้าจะให้ โจ เอ็ดเวิร์ด และ แอนโธนี่ แบร์รี่ ทำหน้าที่รักษาการกุนซือ สภาพทีมล่าสุด ทูเคิ่ลต้องลุ้นความพร้อมของเอ็นโกโล่ ก็องเต้ มิดฟิลด์คนสำคัญที่มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่ารบกวน
ส่วนบรรดาตัวหลักขาประจำรายอื่นๆ ที่ได้พักเมื่อสุดสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นอันโตนิโอ รือดิเกอร์, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลล์เวลล์ และ มาเตโอ โควาซิช ก็จะกลับมาตามปกติ
แดนหน้าคาดจะใช้สามประสาน ฮาคิม ซิเย็ช, แทมมี่ อับราแฮม และ คริสเตียน พูลิซิช กับแผน 4-3-3 ส่วน นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ นายใหญ่ “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตัน พาทีมแพ้เวสต์บรอมวิช 2-3 ในเกมลีกล่าสุด ก่อนชนะชอร์ลี่ย์ 1-0 ในเกมเอฟเอ คัพ เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม
ความพร้อมเกมนี้ นูโน่ จะยังไม่มี แฟร์นันโด มาร์ชาล, ดาเนี่ยล โปเดนเซ่ และ ราอูล ฮิเมเนซ ที่เดี้ยงอยู่ก่อนแล้วเหมือนเดิม ส่วนวิลเลี่ยน โชเซ่ กองหน้าแซมบ้าตัวใหม่ที่ยืมจาก เรอัล โซเซียดาด ยังไม่พร้อมประเดิมเกมนี้
แต่บรรดาตัวหลักที่ได้พักไปเมื่อสุดสัปดาห์ไม่ว่าจะเป็น รุย ปาตริซิโอ, เนลซอน เซเมโด้, รูเบน เนเวส และ เปโดร เนโต้ ต่างพร้อมคัมแบ็กตามปกติ
อย่างที่ทราบกันดีว่า เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เป็นบ๊วยของตารางพรีเมียร์ลีกตอนนี้ ลงเล่นทั้งหมด 19 นัดแพ้มากถึง 16 นัดและชนะเพียงนัดเดียวเท่านั้น แต่ชัยชนะนัดเดียวนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นเกมเปิดรังเชือด นิวคาสเซิ่ล 1-0 จากประตูชัยของ บิลลี่ ชาร์ป
ช่วงหลังมานี้ลูกทีมของ คริส ไวล์เดอร์ ผลงานกระเตื้องขึ้น พวกเขาเก็บชัย 3 จาก 4 นัดหลังสุดในทุกรายการ แม้ 2 ใน 3 นัดที่ชนะจะเป็นการอัดทีมจากลีกต่ำกว่าก็ตาม แต่อย่างน้อยก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดีในการเรียกความมั่นใจเพื่อหนีตกชั้น
ฤดูกาลนี้พวกเก็บแต้มจากเกมเยือนแค่คะแนนเดียวเท่านั้นซึ่งเกิดขึ้นในเกมบุกเสมอ ไบรท์ตัน 0-0 หากคืนนี้พวกเขามีแต้มกลับมาจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็คงเรียกได้ว่าเป็นแต้มใหญ่มากทีเดียว นับตั้งแต่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 เมื่อเดือนสิงหาคมปี 1992 ซึ่งเป็นวันแรกของการใช้ชื่อ “พรีเมียร์ลีก” อย่างเป็นทางการ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เก็บแต้มกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น โดยแพ้ถึง 7 นัดและเสมอ 1 นัด
และนับตั้งแต่ “ดาบคู่” กลับขึ้นมาเหยียบพรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาลที่แล้ว การเจอกันของทั้งสองทีมมักจะจบลงด้วยสกอร์มโหฬารทีเดียว เริ่มตั้งแต่ เกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด โดนตีเสมอนาทีสุดท้ายอย่างเจ็บช้ำที่ บรามอลล์ เลน 3-3 ก่อน “ผีแดง” จะมาเอาคืนที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-0 ด้วยการซัดแฮตทริกของ มาร์กซิยาล และเมื่อกลางเดือนธันวาคมที่ผ่านมา “ผีแดง” บุกเฉือนชนะสุดมันส์ 3-2 จากการเหมาสองประตูของ แรชฟอร์ด และอีกหนึ่งประตูของ มาร์กซิยาล
ขอบคุณข้อมูลจาก maryannbechtel.com
สมัครฟรี แทงบอล ที่ดีที่สุด
แจกฟรีโปรแกรมสูตร บาคาร่า จากทางเรา
มี 4 คาสิโนชั้นนำ ให้เลือกเล่นในเว็บเดียว เล่นผ่านมือถือได้ทุกระบบ